วันจันทร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2558

เจริญพร รินทะระ "มนุษย์กบ" ตัวเป็นๆ ที่ยังเดินเล่นอยู่ในโรงเรียน!



สวัสดีครับทุกท่าน สำหรับบทความนี้เป็นบทความที่ทรงคุณค่าอีกบทความหนึ่งเลยนะครับ เพราะเราจะได้มาสัมภาษณ์และทำความรู้จักกับ "มนุษย์กบ" หรือ ผู้ที่ผ่านการฝึกหลักสูตร "S.E.A.L." นักทำลายใต้น้ำจู่โจม ที่เป็นหลักสูตรที่กล่าวกันว่าฝึกหนักที่สุด! และมีโอกาสที่จะเสียชีวิตระหว่างการฝึกได้เสมอ โดยการสัมภาษณ์ครั้งนี้คงจะเรียกได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ เพราะว่าคงไม่มีมนุษย์กบคนไหนอีกแล้ว ที่จะสามารถฝึกซีลจบแล้วเข้ามาเรียนต่อกับโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถือเป็นความโชคดีของทางโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่มีบุคคลากรที่มีคุณภาพ ได้เข้ามารับการฝึกอบรมที่นี่ โดยยังมีเครื่องหมายและความรู้ของนักทำลายใต้น้ำจู่โจมนี้อยู่! มนุษย์กบคนนี้คือใคร? ผ่านสิ่งที่ยากลำบากที่สุดมาได้อย่างไร? ฆ่าคนด้วยมือเปล่าได้หรือไม่? เชิญมาทำความรู้จักกับเขาได้เลยครับ!

แอดมิน : สวัสดีครับ ขออนุญาตให้ช่วยแนะนำตัวหน่อยครับ

พี่เณร : นรต.เจริญพร  รินทะระ  นรต. รุ่นที่ 69 เกิด 2 พ.ค. 2531 อายุ 27  ปี ชื่อเล่น ชื่อเณร เกิด จ. นครพนม  จบจาก รร.ชุมพลทหารเรือ ครับ
แอดมิน : ตอนนี้พี่ทำหน้าที่เป็นนักเรียนบังคับบัญชาด้วยใช่ไหมครับ พี่เณร : ใช่ครับ พี่เป็น ผู้ช่วยผู้บังคับหมวด กองร้อยที่ 2 ควบคุมดูแลเรื่องการฝึกของนักเรียนชั้นปีที่ 2 เพื่อเตรียมร่างกายไปฝึกหลักสูตรกระโดร่ม แอดมิน : ผมว่าน้องได้จบกบก่อนจบร่มแน่เลยครับพี่ ฮ่าๆ พี่เณร : ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพราะยังขาดเรือยางกับซุง...
แอดมิน : พี่เณรโหดร้ายกับน้องอีกแล้วครับ...ขอเข้าคำถามหลักเลยนะครับพี่เณร ทำไมพี่ถึงต้องไปฝึกซีล?


พี่เณร : ตอนที่เรียน นรจ.(นักเรียนจ่าทหารเรือ) เคยมี หน่วยซีล มาแสดงนิทรรศการอุปกรณ์ที่ใช้ในหน่วย มีการโดดร่มโชว์ด้วย เห็นแล้วรู้สึกเท่มาก และก็มีพี่ชายที่คอยให้คำแนะนำในการฝึก
แต่เหตุผลหลักคืออยากรู้ อยากลอง ว่าจะฝึกหนักแค่ไหน เคยดูคลิปวิดีโอการฝึกตอนวัน ฟรีเดย์ของ นรจ. มันเกิดคำถามในใจว่าถ้าฝึกหนักจริง แล้วทำไมถึงยังมีคนฝึกหลักสูตรนี้จนจบ? พี่เลยต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ!
แอดมิน : แล้วการฝึกของซีลเป็นอย่างไรบ้างครับ ใช้ระยะเวลากี่เดือน?
พี่เณร : ขอสรุปแบบคร่าวๆ นะครับ ถ้าอยากรู้แบบละเอียดหาดูได้ตามเว็ปทั่วไปแต่ต้องใช้วิจารณญานหน่อยเพราะบางทีก็เห็นเขียนมั่วๆเอาภาพของหลักสูตรอื่นมาผสมปนกันหมด
การฝึกใช้เวลา 7 เดือนกว่า
- เดือนแรก เป็นช่วนพรีเทนนิ่งขั้นเตรียมร่างกายแต่ละวันจะฝึก วิ่ง P.T. และ ว่ายน้ำ (P.T. = Physical Training) เดือนแรกนี้จะยังไม่เป็นนักเรียนนักทำลายใต้น้ำเต็มตัว (นทต.) ยังไม่มีการจัดทีมและยังไม่ได้รหัสเป็นของตัวเอง  จะเป็นนักเรียน นทต.เต็มตัวก็ต่อเมื่อทดสอบร่างกายผ่านตามเกณฑ์เพื่อจะได้เข้าฝึกในเดือนที่2 ต่อไป ถึงมีการจัดเป็นทีมแล้วได้รหัส โดยการจัดจะเรียงจากลำดับส่วนสูง แบ่งเป็นทีมๆ ละ 8 คน
-เดือนที่2การฝึกเริ่มหนักขึ้น มีอะไรให้เล่นมากขึ้น มีซุง และเรือยางมาประกอบการฝึกเวลาพักผ่อนลดน้อยลงเรื่อยๆ. ถือได้ว่าเป็นช่วงวัดใจนักเรียนด้วย. สาเหตุที่ทำให้การฝึกหนักขึ้นเพราะเป็นการเตรียมร่างกายและจิตใจก่อนเข้าสู่สัปดาห์นรก แอดมิน : ช่วงสัปดาห์นรกเป็นยังไงบ้างครับพี่
พี่เณรคนขวาสุด ขณะเรียน รร.ชุมพลทหารเรือ
พี่เณร : สัปดาห์นรกเป็นสัปดาห์ที่ 10 จะเป็นการนำการฝึกในช่วงเดือนที่ 2 มาฝึกต่อเนื่องกันเป็นเวลา 120 ชม.โดยไม่ได้หลับไม่ได้นอน สมองเบลอๆมาก เขาสั่งอะไรก็ทำตามเพื่อนๆเขาไป แอดมิน : แล้วพอพ้นหลังจากสัปดาห์นรกไปแล้วละครับ
พี่เณร : หลังจากสัปดาห์นรก......
จะเริ่มเรียนภารวิชาการควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติ
เช่นการฝึกทางการรบขนาดเล็ก การเดินป่า เดินแผนที่เข็มทิศ ดำน้ำ สำรวจหาด สเก็ตซ์ภาพ การใช้อาวุธปืน วิชาวัตถุระเบิดในการทำลายสิ่งกีดขวาง ฯลฯ

-ภาคป่าเล็ก 
ฝึกเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่ภาคป่าอย่างเต็มรูปแบบ  ไปคืนแรกเกือบไม่รอดเหมือนกัน ฝนตกหนักมาก น้ำท่วมเข้ามาในเต๊นท์ ฟ้าผ่าลงมาบริเวณใกล้กับที่นักเรียนกางเต๊นท์ต้องนำ นร.บางคนไปรักษาที่ รพ.  ยังโชคดีที่ตอนนั้นเข้ายามอยู่เลยไม่เป็นไร ฮ่าๆ
ภาคป่าเล็กนี้ฝึก7 วัน แต่ไม่เล็กสมชื่อเลยครับเพราะมีการฝึกรับภารกิจตลอด
- ภาคทะเล
ไปฝึกตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะกูด เกาะช้าง เกาะเสม็ด  รวมถึงบริเวณชายทะเล   เป็นอะไรที่สุดๆมีการแบกเรือยางทน พายเรือทน (พายเรือตั้งแต่เย็นจนถึงเช้าวันต่อมา)
- ภาคป่านี่นรกของแท้ เป็นภาคสุดท้ายก่อนจบ
โหด มันส์ ฮา หนักกว่าสัปดาห์นรกหลายเท่า!
ฝึกในเขตพื้นที่ จ.ระยอง จันทบุรี ชลบุรี ที่คร่าวๆก็มีเท่านี้ครับ...



วันประดับเครื่องหมาย "นักทำลายใต้น้ำจู่โจม"
แอดมิน : นี่ขนาดคร่าวๆนะครับเนี่ย ฟังแล้วเหนื่อยเลย...แล้วตอนฝึกซีลอยู่ พี่เณรคิดอะไร รู้สึกอย่างไร ท้อแท้บ้างไหมครับ?
พี่เณร : นึกในใจพี่อยากจะลาออกตลอด เกิดคำถามในใจครั้งแล้วครั้งเล่า ว่ามาทำไมวะเนี่ย!? อยู่ที่ทำงานก็ดีอยู่แล้ว! ถ้าจบไปก็ไม่ได้ค่าตอบแทนอะไรแถมยังต้องเสียเงินค่าซื้ออุปกรณ์เอง!! แอดมิน : พี่ท้อขนาดนี้แล้วได้อะไรเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจครับ?
พี่เณร : กำลังใจสำคัญของพี่ได้มาจากพ่อแม่แล้วก็พี่ชาย
พ่อ..บอกกับว่าพี่ว่า "เราเป็นลูกชาวนายังไงก็ต้องทนให้ได้"
ตอนทีพี่ไปฝึกอายุ 22 ปี อายุแทบจะน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้รู้จักเพื่อนที่เรียนนักเรียนจ่าทหารเรือที่เรียนมาด้วยกันก็หลายคน ทำให้คึกคักพอสมควร ด้วยความที่อายุยังน้อย รูปร่างก็เล็กยิ่งทำให้ต้องใช้ความพยายามและความอดทนที่มากกว่าคนอื่น
แอดมิน : แล้วพอพี่จบซีลมาแล้ว พี่ลงทำงานที่ไหนครับ?
พี่เณร : จบมาก็กลับไปอยู่หน่วยเดิมที่ กก.1 บก.รน.เป็นหน่วยสนันสนุนในการซ่อมบำรุงของกองบังคับการตำรวจน้ำ ทำงานได้ประมาณ 6 เดือนก็ทำเรื่องย้ายที่ทำงานไปที่สถานีตำรวจน้ำนครพนม เพราะอยากอยู่ใกล้บ้าน ใกล้พ่อแม่สามารถช่วยเเบ่งเบาภาระทางบ้านได้ และไม่ชอบความวุ่นวายในเมืองหลวง
มีคนตั้งคำถามกับพี่หลายคำถามว่า คิดยังไงทำไมถึงไปฝึกซีล? ฝึกไปแล้วได้อะไร? ได้เงินเพิ่มไหม? ทำไมไม่นำความรู้จากการฝึกไปใช้ประโยชน์? ไม่เคยหนักใจที่จะต้องตอบคำถามเหล่านี้อยู่แล้วเพราะผมได้คำตอบ ที่เกิดจากการที่ผมตั้งคำถามไว้ก่อนฝึกหลักสูตรนี้แล้ว!!
แอดมิน : แล้วอะไรคือจุดพลิกผันที่ทำให้พี่เณรสอบเข้า รร.นรต. ครับ?
พี่เณร : จริงๆแล้วเป็นความฝันตั้งแต่ยังเด็กว่าถ้าได้เป็นนายร้อยห้อยกระบีคงจะเท่น่าดู ฮ่าๆ(หัวเราะดังมาก) เคยสอบนักเรียนเตรียมทหารตอนจบ ม.4 ตอนนั้นสอบเพียง 3 เหล่า แต่ไม่ได้สมัครสอบตำรวจเพราะไม่ชอบตำรวจ (ซะงั้น)
หลังจากจบ ม.6 ก็สอบนักเรียนจ่าทหารเรือเลือกเหล่าอิเล็กฯ เป็นตำรวจน้ำฝากเรียน พี่ชายให้เลือก ตร.น้ำ เพราะจบมามีโอกาสสอบเข้าเป็น นรต. ก็เลยลองดูสักตั้ง คิดไว้เสมอว่าถ้าสอบติดอาจทำให้ชีวิตดีกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้ พี่ก็พยายามอ่านหนังสือในปีแรกแต่ไม่ติด ก็เลยตั้งใจเอามันใหม่ อ่านหนังสือให้มากกว่าเดิม ในปีที่ 2 พี่เลยสอบติดและได้เข้ามาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 69 ครับ แอดมิน : หลังจากที่พี่เข้ามาแล้วอะไรหนักกว่ากันครับพี่ระหว่างซีลกับนักเรียนนายร้อย พี่เณร : พี่ว่ามันเหนื่อยคนละแบบนะ จะเอาไปเทียบกันไม่ได้หรอก ที่นี่มันก็เหนื่อยอย่างนึง แต่ที่ฝึกซีลมันจะเหนื่อยการทำภารกิจและการออกกำลังกายมากกว่า แต่ที่แน่ๆเลยคือเหนื่อยทั้งคู่
แอดมิน : หลายท่านยังอาจจะไม่รู้ว่า พี่เณรเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่รอดชีวิตในกรณีอุบัติเหตุร่มไม่กางเพราะสายสลิงหลุด ผมขอให้พี่ช่วยเล่าเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ได้กระโดดออกไปจากตัวเครื่องด้วยครับ
วันเกิดเหตุกระโดดลงมา โดยใช้ร่มช่วย
พี่เณร : ครับ...สำหรับพี่เป็นครั้งแรกในชีวิตสำหรับการโดดร่มยังไม่รู้เลยว่าเวลาร่มกางแล้วเราจะรู้สึกอย่างไรทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก...พอโดดออกมารู้แต่ว่าลมพัดขาทำให้ศีรษะดิ่งลงกับพื้น แต่ได้นับตามที่ครูฝึกได้สอนมา พอจังหวะเชคร่ม...ร่มยังไม่กาง... ตอนแรกก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าร่มอาจยังลู่ลมอยู่เดียวคงกาง แต่พอมองไปก็เห็นแต่เส้นสแตติคไลน์สบัดอยู่ขณะเดียวกันก็คิดว่ามันผิดสังเกตแล้วเลยตัดสินใจดึงร่มสำรอง ตอนนั้นมองเห็นร่มสำรองไหลออกมาแล้วก็กางเต็มที่ ทำให้ขาที่ชี้ฟ้าอยู่สบัดลง จากนั้นก็เตรียมตัวลงพื้น เกร็งขาสู้เต็มที่ ลงพื้นปลอดภัยครับ



แอดมิน : สุดยอดครับพี่! นี่แหละคือสิ่งที่ได้รับจากการฝึกฝน ทั้งไหวพริบและการทำตามขั้นตอนจากการฝึก ผมขอนับถือพี่เณรจริงๆครับที่ใช้เวลาตัดสินใจที่จะดึงร่มช่วยออกมาได้ภายในเสี้ยววินาที!

แอดมิน : เรื่องเครียดๆผ่านไป ไม่ทราบว่าผู้ชายที่ผ่านการฝึกหนักมาอย่างพี่มีงาานอดิเรกอะไร และอยู่ชมรมอะไรครับ?
พี่เณร : อยู่ชมรมว่ายน้ำและโปโลน้ำครับ งานอดิเรกชอบการดำน้ำเป็นชีวิตจิตใจ
ชอบความสงบ รักความอิสระ
แอดมิน : พี่นี่ หล่อ ใจเย็น เป็นธรรมชาติ เข้ากับหน้าตาพี่มากๆจริงๆนะครับ พี่เณร : ... แอดมิน : อูย... แล้วคติประจำใจที่ใช้ในชิวิตประจำวันละครับ
พี่เณร : พี่คิดเสมอครับว่า
"เราจะยืนอยู่ได้เพราะเรามีร่างกายที่แข็งแรง

ร่างกายเราจะแข็งแรงได้เพราะเรามีจิตใจที่แข็งแกร่ง"
แอดมิน : เป็นคติประจำใจที่ฟังแล้วแข็งแกร่งมากครับ..แล้วเมื่อจบไปเป็นนายตำรวจ พี่คาดหวังอย่างไรบ้างครับ?
พี่เณร : อย่าโดนไล่ออกจากตำรวจก็พอครับ ฮ่าๆๆๆ
คงไม่ได้คาดหวังอะไรมาก มีก็เพียงแต่อยากนำความรู้ที่ได้จากการเรียนมาไปใช้เพื่อช่วยประชาชนให้เต็มที่เท่าที่จะสามารถช่วยเหลือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและถูกเอารัดเอาเปรียบดูเหมือนว่าจะได้รับการช่วยเหลือน้อยให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด
แอดมิน : รู้สึกแย่ไหมที่คนส่วนใหญ่ในสังคมมองตำรวจในภาพลบ
พี่เณร : คงไม่ถึงกับแย่เพราะในขณะเดียวกันก็มีคนอีกบางส่วนที่ใจกว้างพอและก็มองตำรวจในแง่ดีอยู่บ้าง ผมเป็นตำรวจถ้าหากเจอตำรวจที่คิดว่าทำไม่ถูกไม่เหมาะสม ผมยังไม่ชอบเลยครับ! นับประสาอะไรกับประชาชนทั่วไปจะมองว่าตำรวจไม่ดี ต่างคนต่างความคิดเราไม่สามารถบังคับให้คนอื่นมาชอบหรือไม่ให้ชอบเราได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ตัวเราต่างหาก หากว่าเราทำตัวเองดีเหมาะสม ถูกต้องอยู่แล้วก็ไม่ต้องไปสนคำพูดติฉินท์นินทานั้น
แต่ก็ไม่อยากให้ประชาชนมัวแต่จะจับผิดอย่างเดียวครับ
อยากให้ประชาชนมามีส่วนร่วมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดีกว่าครับเพื่อให้ความสงบสุขบังเกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา
แอดมิน : สุดท้ายนี้พี่เณรมีอะไรจะฝากถึงน้องๆตำรวจเก่า และน้องๆที่จะสอบเข้ามาเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจบ้างไหมครับ?
พี่เณร : หากน้องๆเป็นอีกคนที่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ รร.นรต.ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอให้น้องมีความตั้งใจ แล้วก็ลงมือทำให้เต็มที่ อย่าเพิ่งวาดฝันหรือคาดหวังอะไรมากเกินไป อย่าไปแต่งแต้มจินตนาการว่ามันต้องสวยงามหรือเลวร้ายเสมอไปจนกว่าจะได้ลงมือทำและสัมผัสกับสิ่งนั้นจริงๆ.



"ผมได้ตอบคำถาม ที่ได้ถามตัวเองไว้ก่อนฝึกแล้ว

และในวันนี้คำตอบของมัน...อยู่บนหน้าอกข้างซ้ายของผม."

นรต.เจริญพร รินทะระ
"มนุษย์กบ" ตัวเป็นๆ ที่ยังเดินเล่นอยู่ในโรงเรียน
.
.
.
.
.
.
.
.
.

แอดมิน : พี่เณรพี่ ถามจริงๆเถอะ ที่เขาว่าพี่ฆ่าคนด้วยมือเปล่านี่จริงปะ?


พี่เณร : ...




สนทยา 52

ผู้สัมภาษณ์/เรียบเรียง/เผยแพร่

3 ความคิดเห็น: