วันเสาร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2558

เคล็ดลับ 11 ข้อ เตรียมสอบนายร้อย!

เคล็ดลับ 11 ข้อ เตรียมสอบนายร้อย!



1.แรงบันดาลใจ
แรงบันดาลใจหรือความฝันจะเป็นตัวช่วยทำให้มองเห็นเส้นทางได้อย่างชัดเจน อีกทั้งจะช่วยฉุดเราขึ้นมาในช่วงเวลาที่เราท้อ เวลาที่เราอ่านหนังสือจนท้อและรู้สึกว่าเส้นทางมันยากลำบากให้เรานึกถึงแรงบันดาลใจแรกของเราเอาไว้ ใช้มันฉุดตัวเองขึ้นมาจากความย่อท้อเหล่านั้น การอ่านหนังสือหรือบทความที่เกี่ยวกับนายร้อยก็จะช่วยได้เป็นอย่างดี แต่แนะนำว่าอย่าอ่านเยอะเสียจนไม่มีเวลา อ่านหนังสือสอบ

เพราะว่าบนเส้นทางนี้มีเพียงแค่ความฝันหรือแรงบันดาลใจอย่างเดียวมันไม่พอ แต่ต้องลงมือทำ!


2.สำรวจตัวเอง
ก่อนตัดสินใจอ่านหนังสืออย่างบ้าคลั่ง ให้เราสำรวจตัวเองก่อนว่าถนัดหรืออ่อนในวิชาไหน และควรปรับปรุงมันอย่างไร ถ้าไม่รู้...แนะนำวิธีง่ายๆ คือ ไปซื้อข้อสอบเก่ามานั่งทำ ทำแบบตั้งใจและจับเวลา อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่มันทำให้เรารู้ว่าตอนนี้ควรที่จะเสริมอะไรหรือทำให้ด่านใดเด่น
ข้อสอบของนายร้อย จะให้คะแนนความสำคัญไม่เท่ากันเช่น วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นวิชาหลักจะมีคะแนนที่สูงกว่าวิชารองอื่นๆ อีกสามวิชา คือ สังคม ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ แต่ใช่ว่าวิชารองจะไม่สำคัญ สำหรับในสนามสอบคนเก่งๆมักจะทำคะแนนวิทย์และคณิตได้เต็มหรือเกือบเต็มกันอยู่แล้ว ดังนั้นวิชารองจึงเป็นวิชาที่ไว้ "เฉือน" กับคู่แข่งคนอื่นๆ เรียกได้ว่าห้ามละเลยโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ!




3.มีความตั้งใจ
ทางสายนี้ถ้ามีแต่แรงบันดาลใจกับความฝันมันยังไม่พอหรอกครับ ถ้าหากเราไม่อยากให้มันเป็นฝันลมๆแล้งๆ เราก็ต้องตั้งใจทำให้มันถึงที่สุดและอย่าหยุดจนกว่าจะสำเร็จ ใครหลายคนที่สอบไม่ติดเพราะทำอะไรครึ่งๆกลางๆ มีความฝันแต่ไม่มีความตั้งใจ หรือมีความตั้งใจแต่ไม่ตั้งใจอย่างถึงที่สุดจริงๆ
รุ่นน้องหลายคนที่บ่นกับผมว่า "ผมอ่านหนังสือวันละ 5 ชั่วโมง ติวก็ติวตลอด แต่ก็ยังไม่ติด"
...

น้องครับ

                     "สมัยพี่สอบ พี่ตื่นตี 5 มาอ่านหนังสือ 6 โมงอาบน้ำไปโรงเรียน ถึงโรงเรียนก็อ่านหนังสือ เข้าห้องเรียนก็เอาหนังสือเตรียมสอบขึ้นมาอ่าน เที่ยงทานข้าวเสร็จก็ที่เงียบๆอ่านหนังสือ เข้าห้องเรียนช่วงบ่ายก็เอาหนังสือมาอ่านเหมือนเดิม ตกเย็นออกกำลังกาย 1 ช.ม. กินข้าวอาบน้ำแปรงฟัน แล้วก็อ่านหนังสือถึง 4 ทุ่ม  " วัฎจักร พี่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ ต้นมกราจนถึงสอบ เรียกได้ว่าอยู่กับหนังสือวันละไม่ต่ำกว่า 10 ช.ม. ขนาดจะ "  -ี้ " พี่ยังเอาหนังสือเข้าไปนั่งอ่านเลยครับ (ฮ่าๆ)

เห็นความตั้งใจของพี่แล้วใช่ไหมครับ?
แต่ถึงอย่างนั้นพี่ก็ยังสอบติดในอันดับ 214...
นั่นหมายความว่ายังมีคนที่ตั้งใจและพยายามมากกว่าถึง "213 คน"
คงนึกไม่ออกเลยใช่ไหมว่าพวกพี่ๆเขาเหล่านั้นตั้งใจอ่านหนังสือมากกว่าพี่ขนาดไหน?


4.สงสัยให้ถาม
                     หลายครั้งที่เรานั่งอ่านหนังสือแล้วเกิดข้อสงสัยมากมายทั้งไม่เข้าใจหรือแก้โจทย์ไม่ออก อย่าเก็บคำถามนั้นไว้ในใจ เราควรถามเพื่อนเก่งๆ หรือถามครูประจำวิชานั้นๆ เพราะถ้าเราฝืนอ่านต่อหรือเข้าใจอะไรไปแบบผิดๆ ความรู้บางอย่างโดยเฉพาะวิชาฟิสิกส์ ใช้หลักความรู้ในการต่อยอดไปเรื่อยๆ ถ้าเราพื้นฐานผิดหรือไม่เข้าใจ มันก็จะผิดไปหมด และการที่มีเพื่อนคอยช่วยเหลือมันสนุกกว่าการอ่านคนเดียวเยอะ! 




5.ลด Social ลดเที่ยว ลดเกม
                   ในวันๆหนึ่งเราเสียเวลาไปกับการ Check Face ตอบ Line ไปเที่ยว เล่นเกม เป็นเวลาหลายชั่วโมงโดยที่ไม่รู้ตัว ลองนึกดูว่าถ้าเราเอาเวลานั้นมาอ่านหนังสือ สมมติว่าอย่างน้อยเราเปลี่ยนการเล่น Social วันละ 1 ช.ม. (อย่างน้อยที่สุด) มาเป็นการอ่านหนังสือ เป็นเวลา 60 วัน หลังจากนี้ เราจะมีเวลาในการอ่านหนังสือเพื่มถึง 60 ช.ม.! หรือ 2 วันกับอีก 12 ชั่วโมง! มันเยอะพอที่จะทำความเข้าใจหนังสือซักบทได้สบายๆเลยนะ!


6.พักเรื่องหัวใจ


                   ข้อนี้ไม่ได้บอกให้เลิกรักแต่บอกให้พักเอาไว้ก่อนเพราะหัวใจของวัยรุ่นมันช่างเปราะบางเสียจนหลายครั้งมันมีผลกระทบต่อเรื่องอื่นๆ อีกทั้งในวันๆหนึ่งเราใช้เวลาคิดถึงคนรักมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังอินเลิฟหรือจีบกันใหม่ๆ เป็นอุปสรรคที่หินอย่างมาก
ซึ่งวันนี้จะแนะนำทางออกให้
3 ทาง

1) ช่วยกันเรียน เป็นหนทางที่ประนีประนอมที่สุด แต่ผลลัพท์ออกมาพอใจทั้งคู่ แต่เป็นวิธีที่ยากเพราะส่วนใหญ่อยู่ด้วยกันแล้วจะไร้สาระมากกว่า

2) ลดการพูดคุยโทรศัพท์แต่จัดเวลาให้สำหรับคนพิเศษในแต่ละวัน วิธีนี้เป็นวิธีที่ค่อยๆลดพฤติกรรมระหว่างคนสองคนลง มันจะทำให้ไม่ห่างกันมากเกินไปและมีเวลาตารางที่แน่นอนในแต่ะวัน

3) หักดิบ บอกกับเขาไปตรงๆว่าเราจะสอบนายร้อยแล้วนะเราขอเวลาของเรา โดยอาจจะจูงใจด้วยคำสัญญา ว่าเราจะกลับมาพร้อมกับความสำเร็จ...หรืออื่นๆ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้เรามีเวลาอ่านหนังสือได้อย่างเต็มที่ และอย่าไปกลัวว่าเขาจะทิ้งครับ คิดซะว่าถ้าเขาทิ้งเราไปก็เหมือนทิ้งอนาคตแต่ขอบอกไว้อย่างนึงเลยครับว่า 
"ถ้าคนมันใช่...ยังไงเขาก็รอ" 

                 

7.หนังสือไม่ต้องเยอะแต่เน้นความรู้แน่น
             หลายคนมักจะซื้อหนังสือเตรียมสอบนายร้อยมาเยอะๆ เพื่อหวังว่าจะมีความรู้ตามจำนวนหนังสือที่ซื้อมา ซึ่งนั่นเป็นความคิดที่ดี แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วมันผิดในทางปฎิบัติเสียมาก เพราะหนังสือเตรียมสอบนายร้อยส่วนใหญ่ที่วางขายมักจะนำข้อสอบเก่าๆมายำรวมๆกัน แล้วเฉลยโดยอาจารย์ของแต่ละสำนัก ข้อผิดพลาดคือ หลายครั้งที่เฉลยผิด เฉลยไม่เคลียร์ หนักที่สุดคือมีแต่เฉลยแต่ไม่มีวิธีทำ
             ข้อแนะนำในการเลือกซื้อหนังสือคือเราควรจะหาหนังสือติวสอบทั่วไปในแต่ละวิชามากกว่าเพื่อที่จะมีความรู้และพื้นฐานที่ดีก่อนที่จะไปลุยโจทย์ยากๆ ถึงเฉลยไม่เคลียร์แต่เรามีความรู้และพื้นฐานที่ดี เราจะเข้าใจที่มาของมันเองว่ามาอย่างไรและจะทำให้การอ่านหนังสือไม่รู้สึกถึงทางตันเวลาทำโจทย์ด้วยครับ





8.บันไดเสียง
"อย่าเอาคำดูถูกมาทำให้เราทดถอยลงไป แต่จงใช้เป็นบันไดไต่ขึ้นไปสู่ความสำเร็จ"
            ยิ่งเราโดนดูถูกเราก็ยิ่งต้องพิสูจน์ให้คนอื่นเห็นว่าเราทำได้ แล้วคำดูถูกเหล่านั้นจะกลับมาเป็นคำชื่นชมในวันที่เราประสบความสำเร็จครับ

9.ตารางชีวิต
               จัดเวลาของเราว่าวันไหนต้องอ่านวิชาอะไรบ้าง ควรหยุดอ่านเมื่อไหร่ ควรจะออกกำลังกายกี่นาที ให้เวลากับใครกี่นาที แปะตารางไว้บนหัวเตียงเลยก็ได้ เจ้าตารางตัวนี้จะช่วยเราระลึกได้ว่าเราควรที่จะต้องทำอะไรต่อไปครับ

10.ศึกษาข้อสอบเก่า
               โดยปกติแล้วจะมีหนังสือรวมข้อสอบเก่าพร้อมเฉลยและวิธีทำจากแต่ละเหล่าวางขายในวันที่เราไปสมัครสอบรอบแรก โดยหนังสือเหล่านี้จะดีกว่าหนังสืออื่นตรงที่บอกด้วยว่าข้อไหนอาจารย์ผู้ออก ออกโจทย์ผิด หรือไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
               เมื่อเรามีหนังสือที่รวมข้อสอบเก่าอยู่ในมือแล้ว ให้เราดูลักษณะโจทย์โดยรวมของในแต่ละเหล่า ว่าเน้นไปที่เรื่องใด อย่างเช่น วิทยาศาสตร์ มี 25 ข้อ เป็นฟิสิกส์ที่เกี่ยวกับเรื่องแรงกี่ข้อ มีเคมี ชีวะกี่ข้อ เป็นต้น ข้อสอบของแต่ละเหล่า มักจะมีรูปแบบจำนวนข้อที่เน้นอยู่แล้วเพื่อให้รับบุคคลากรที่เหมาะสมกับเหล่าของตน ให้เราลองวิเคราะห์และนั่งทำดูครับ โจทย์ที่สอบทุกปีมักจะคล้ายข้อสอบเดิมแต่พลิกแพลงหรือเปลี่ยนตัวเลขเอานั่นแหละครับ

11.อย่าหลงตัวเอง อย่าอยู่แต่ในกะลา
               เรื่องนี้เอาไว้เตือนพวกที่ 1 ค่ายหรือคนที่กำลังมีคะแนน ติดอันดับ 1 ใน 10 ของค่ายติวที่ตัวเองเรียน มันเป็นความผิดพลาดอย่างมหันต์ที่พอรู้สึกตัวเองว่าเก่งแล้ว ขอพักหน่อย หรือหย่อนการอ่านหนังสือลงซักหน่อย ลองคิดดูนะครับ คนสมัครสอบปีนึง 20000-30000 คน น้องเป็นส่วนเล็กมากๆ เมื่อเทียบกับมัน คนเก่งกว่าน้องยังมีอีกเยอะครับ อัตราส่วนเพื่อนในค่ายเทียบกันไม่ได้เลย ท่องเอาไว้เสมอครับว่า "เมื่อไหร่ที่เราหยุดอยู่กับที่ก็เท่ากับว่าเราถอยหลัง" แล้วความสำเร็จจะอยู่ไม่ไกลครับ.

สุดท้ายอยากฝากคลิปวีดีโอนี้ไว้ เพื่อกระตุ้นให้คนที่กำลังจะสอบ ตั้งใจในสิ่งที่ตัวเองทำครับ :)






4 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณพี่ๆนรต.ด้วยนะครับ อีก3เดือนผมจะสอบ ตท.เหล่าตำรวจแล้ว หวังว่าตอนผมขึ้นเหล่าผมจะได้เจอพี่ๆนรต.นะครับ

    ตอบลบ
  2. พี่บอกว่าอ่านหนังสือ 10ชม.แต่ยังสอบได้อันดับ214 คนที่อันดับก่อนพี่อาจจะอ่านหนังสทอน้อยกว่าพี่แต่พวกเขามีเส้นสายในการได้รับคะแนนพิเศษไงครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่มีครับน้อง รอบแรก ไม่มีเส้นสายอะไรทั้งนั้นครับ การสอบก็เหมือนสนามแข่งแหละครับ มีแค่เรารู้หรือไม่รู้คำตอบนั้นๆ การอ่านเยอะมันก็เป็นเครื่องการันตีว่าเรารู้ว่ามากกว่าคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำข้อสอบได้รึเปล่าก็แค่นั้นเองครับ :)

      ลบ
  3. ขออนุญาตแนะนำครับ
    ชุดข้อสอบราชการเพียง 1 ฿ ทำผ่านแอพ
    รอไรโหลดเลย
    https://goo.gl/tcyPcY

    ตอบลบ